(Please find Thai version below)

When we say that breaking the precepts is a sinful act for which there will be payback time, it’s strange that most people’s eyes will not be opened as much as when we say about doing something that will bring misfortune. People fear misfortune more than sin.

That’s because people think of fortune as luck and success. Actually, the cause of misfortune is karma that has been accumulated in people’s subconscious mind (sankhara), not because of encountering a fierce animal or breaking a glass in a ceremony…It’s karma that destines the fortune in people’s life.

To have a good life, one has to stop doing sinful deeds but to do only good deeds. Buddha taught about 38 steps towards Enlightened Living. The key principles are living a moral life, having gratitude, showing respect to those worthy of respect, following the Noble Path and attaining Nirvana.

It’s clear that living against morality, being ungrateful, lacking proper respect and not finding the enlightened path will lead to misfortune which results to a gloomy, depressing, failing and unblissful life.

The most severe and the first cause of misfortune in life is ungratefulness and betrayal. Whether it’s at the level of individual or national, it’s considered the most severe… A person with such behavior will never be successful in anything. His life will only be destroyed by his bad karma.

The next one is associating with bad friends. Being surrounded by bad people often leads to you doing bad things.

Another one is laziness; not being diligent in work and not doing worthy things in life. The lazy mind will draw similar kinds of kilesa to be together. Then such a person will always suffer misfortunes, he will live a gloomy life.

Other than these, misfortune is resulted from bad deeds. If a person realizes that he has an unfortunate life due to any bad deed that was done in this life or past life, what should he do to resolve?

Here’s the answer…Do not think that giving alms to monks or giving the offerings dedicated to monks will help reduce the impact of bad karma. Making this kind of merit without truly strong faith and not to the high virtue recipient, such merit can only help sustain the person’s life for him to continue to pay back for his bad karma.

Even though we cannot change the past deed, we can make our present life better. A person should therefore do good deeds of high merit, live a moral life, be diligent in work and not mingle with bad people. When making merit, his mind must fully ‘sacrifice’ for the sake of giving. However, sacrifice is hard to do, especially sacrifice for religious cause and for the nation.

Therefore, train your mind to truly sacrifice. This is the way to resolve the misfortune in your life.

Master Acharavadee Wongsakon

Quote on the picture:

Sacrifice is hard to do, especially sacrifice for religious cause and for the nation. Therefore, train your mind to truly sacrifice. This is the way to resolve the misfortune in your life.

Source: An excerpt from The Dhamma Teachings Book by Master Acharavadee Wongsakon, printed on the 7th Anniversary of Techovipassana Dhamma Practice.

 “ทางแก้ชีวิตอัปมงคล”

เป็นเรื่องแปลกที่ว่า หากบอกว่าทำผิดศีลเป็นบาป ต้องได้รับกรรม ผู้คนก็ยังไม่ตื่นตาสว่างเท่ากับบอกว่า

การทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งจะเกิดเป็นความอัปมงคล คนกลัวความอัปมงคล มากกว่ากลัวบาปกรรมเสียอีก

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะผู้คนมองความเป็นมงคล ในมุมของโชคลาภและความสำเร็จ ที่จริงแล้วการณ์อันเป็นเหตุให้เกิดความอัปมงคลเกิดจากผลกรรมที่สะสมไว้ในสังขาร ไม่ใช่เพราะชื่อ ไม่ใช่เพราะไปเจอสัตว์ร้าย หรือเพราะทำแก้วแตกในงานมงคล…กรรมนี่แหละเป็นเครื่องกำหนดมงคลของชีวิต

หากอยากมีชีวิตดีก็ต้องหยุดทำบาป ทำแต่ความดี พระพุทธองค์ได้ตรัสสอนถึงมงคลชีวิต 38 ประการ โดยมีใจความหลักคือการประพฤติอยู่ในศีลธรรม มีความกตัญญู มีคารวธรรม เดินตามทางอริยมรรคและทำนิพพานให้แจ้ง

จะเห็นได้ว่า การผิดศีลธรรม อกตัญญู ไร้คารวธรรม ไม่แสวงหาทางสว่าง ล้วนทำให้ชีวิตเข้าข่ายอัปมงคลทั้งสิ้น ส่งผลให้เป็นผู้มีชีวิตที่อับเฉา จมทุกข์ ล้มเหลว ไร้วาสนา

ความอัปมงคลสูงสุดที่จะมาสู่ชีวิตอันดับแรกอาจารย์ขอยกให้ ความอกตัญญู การทรยศหักหลัง ไม่ว่าจะเป็นระดับบุคคลหรือระดับชาติ นี่เป็นกรรมอัปมงคลสุด ๆ ชีวิตจะทำการใดให้สำเร็จด้วยตนเองไม่ได้เลย มีแต่ต้องถูกกรรมบดขยี้ชีวิตสถานเดียว

ความอัปมงคลต่อมา คือการคบมิตรชั่ว เมื่อชีวิตแวดล้อมอยู่ด้วยคนจิตใจทรามแล้ว ความชั่วใด ๆ ก็ทำให้บังเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

ความอัปมงคลอีกประการ คือ การงอมืองอเท้า ขี้เกียจสันหลังยาว ไม่ขวนขวายในการประกอบอาชีพ และหมั่นทำชีวิตให้มีคุณค่า จิตที่มีความเกียจคร้านจะเป็นแหล่งซ่องสุมของสรรพวิญญาณกิเลสประเภทเดียวกัน เกลือกกลั้วสิ่งโสมม เมื่อจิตข้องอยู่ด้วยสิ่งนี้ ชีวิตจึงต้องประสบแต่สิ่งไม่เป็นมงคล มีแต่ความอับเฉาเสมอ

ความอัปมงคลนอกเหนือจากนี้ ก็เป็นไปด้วยอำนาจของการประกอบอกุศลกรรมทั้งสิ้น หากพิจารณาแล้วว่า ชีวิตของเราอาจมัวหมองไปด้วยเหตุสิ่งใดที่อาจเคยทำไว้ทั้งโดยรู้ตัวหรือแต่อดีตชาติ แล้วจะทำอย่างไร

คำตอบคือ อย่าได้คิดว่าการทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทานกระป๋องที่มีไว้ให้เวียนเทียน จะช่วยลดทอนอำนาจกรรมแรงเช่นนี้ไปได้ เพราะบุญชนิดนี้ หากไม่ได้ทำด้วยศรัทธาแรงกล้า และยิ่งหากไม่ได้พบเนื้อนาบุญอันประเสริฐแล้ว บุญเพียงนี้ ทำได้แค่เป็นเบี้ยยังชีพให้มาใช้กรรมต่อเนื่องเท่านั้น เมื่ออดีตแก้ไขไม่ได้แต่เราทำปัจจุบันชีวิตให้ดีขึ้นมาได้ บุคคลจึงพึงหมั่นทำกุศลที่ให้อานิสงส์สูง ดำเนินชีวิตอยู่ในศีลธรรม ขวนขวายการงานและไม่คบมิตรชั่ว และในการทำบุญกุศลก็ต้องทำให้จิตเข้าถึงคำว่า “เสียสละ” ความเสียสละเป็นสิ่งที่คนทำได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเสียสละเพื่อพระพุทธศาสนา เพื่อชาติบ้านเมือง

ดังนั้น จงฝึกฝนจิตให้เข้าถึงการเสียสละอย่างแท้จริงเถิด และนี่แหละจึงจะแก้ชีวิตอัปมงคลได้

อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล

ที่มา: คัดคำสอนจาก หนังสือรวมธรรมคำสอน ท่านอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล

ในวาระ 7 ปี สายธรรมเตโชวิปัสสนา